- กันแดด คืออะไร
- กันแดด มีกี่ประเภท
- ครีมกันแดดทาหน้า VS ครีมกันแดดทาตัว ต่างกันอย่างไร
- กันแดดเลือกใช้ยังไงให้ปกป้องผิวได้ดี
- วิธีทากันแดดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- เลือกกันแดดอย่างไรให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิว
- กันแดดกันน้ำ VS กันแดดทั่วไป ควรเลือกใช้แบบไหนดี
- จะเกิดอะไรขึ้น หากคุณไม่ทากันแดดเป็นประจำ
- วิธีอ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์กันแดด
- กันแดดผสมรองพื้น จะทำให้ผิวหน้าอุดตันไหม
- ปัจจัยที่มีผลต่อการออกฤทธิ์ของกันแดด
- ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันแดด ที่คุณทำโดยไม่รู้ตัว
- แนะนำครีมกันแดดที่ดีที่สุด จากลอรีอัล ตัวเต็งมีขายใน 7-11
- สรุป
- อ้างอิง
กันแดด คืออะไร
กันแดด คือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด โดยมีรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง รวมถึงสร้างเม็ดสีเมลานินที่ส่งผลให้ผิวคล้ำ การทาครีมกันแดดจึงจำเป็นมากในแต่ละวัน ต่อให้อยู่ที่ร่มหรือไม่ได้เจอกับแสงแดด ก็ยังคงต้องทาอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันปัญหาผิวอย่าง ฝ้า กระ และจุดด่างดำ รวมถึงการมีริ้วรอยก่อนวัยอันควรกันแดด มีกี่ประเภท
ครีมกันแดด มีทั้งหมด 3 ประเภท โดยสามารถแบ่งประเภทออกได้ดังนี้1.กันแดด ประเภทสะท้อนรังสี (Physical Sunscreen)
ครีมกันแดด ประเภทสะท้อนรังสี เป็นการสะท้อนรังสี UV ให้ออกไปจากชั้นผิวหนัง และปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ผิวไม่มีตกค้าง ไม่อุดตัน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย เด็กและสตรีมีครรภ์สามารถใช้ได้2.กันแดด ประเภทดูดซับรังสี (Chemical Sunscreen)
ครีมกันแดด ประเภทดูดซับรังสี เป็นการดูดซับรังสี UV ไม่ให้ผ่านเข้าสู่ผิวหนัง มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่ต้องใช้ปริมาณที่เยอะก็ปกป้องได้ ใช้งานง่าย สามารถใช้คู่กับสกินแคร์ได้เป็นอย่างดี3.กันแดด ประเภทผสม (Hybrid Sunscreen)
ครีมกันแดด ประเภทผสม ครีมกันแดดประเภทสุดท้ายนี้จะรวมคุณสมบัติของสะท้อนรังสีกับดูดซับรังสีเอาไว้ พูดง่าย ๆ ก็คือรวมจุดเด่นของทั้งสองประเภทเข้าด้วยกัน และเป็นประเภทที่เป็นนิยมมากในปัจจุบันครีมกันแดดทาหน้า VS ครีมกันแดดทาตัว ต่างกันอย่างไร
ครีมกันแดดทาหน้า VS ครีมกันแดดทาตัว ต่างกันอยู่ 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ส่วนผสมและเนื้อสัมผัส ครีมกันแดดทาหน้าจะมีส่วนผสมที่อ่อนโยน เพราะผิวหน้าบอบบางกว่าผิวกาย ในขณะที่กันแดดทาตัวจะมีส่วนผสมที่เข้มข้นกว่า
ในส่วนของผิวสัมผัส ครีมกันแดดทาหน้ามักมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ เนื่องจากผิวหน้าต้องการการบำรุงที่มากกว่าผิวกาย บางสูตรอาจมีคุณสมบัติในการบำรุงผิว เช่น ควบคุมความมัน เพิ่มความชุ่มชื้น หรือลดเลือนริ้วรอย
ครีมกันแดดทาตัวมักมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นกว่าครีมกันแดดทาหน้า เนื่องจากผิวกายต้องการการปกป้องที่มากกว่าผิวหน้า ครีมกันแดดทาตัวบางสูตรอาจมีคุณสมบัติในการกันน้ำ กันเหงื่อ หรือกันน้ำทะเล
กันแดดเลือกใช้ยังไงให้ปกป้องผิวได้ดี
ในส่วนนี้จะสอนวิธีดูครีมกันแดด เลือกใช้ยังไงให้ปกป้องผิวได้ดี โดยมีรายละเอียดดังนี้1.เลือกกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ
จริง ๆ แล้วค่า SPD มีตั้งแต่ SPF15, SPF30 ไปจนถึงค่า SPF50 แต่ทางที่ดีที่สุด ควรเลือกค่า SPF 50 เนื่องจากสามารถกรองได้ 98% และป้องกันได้ทั้งผิวไหม้ ผิวแก่กว่าวัย รวมถึงป้องกันมะเร็งผิวหนังได้2.เลือกกันแดดที่ป้องกันทั้ง UVA และ UVB
การเลือกกันแดดที่ป้องกันอย่างครอบคลุม ทั้งรังสี UVA และ UVB ไม่เพียงแค่ป้องกันผิวไหม้ แต่จะช่วยไปถึงปัญหาริ้วรอยและโรคมะเร็งผิวหนัง โดยสังเกตกันแดดที่มีทั้ง UVA และ UVB ได้จากฉลากบนผลิตภัณฑ์ที่ระบุไว้ว่า Broad-Spectrum3.เลือกกันแดดที่กันน้ำได้
เลือกครีมกันแดดที่กันน้ำได้ ถือว่าเป็นอีกข้อที่ควรทำมาก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่ร้อน ดังนั้นการใช้ชีวิตในแต่ละวันอาจจะมีเหงื่อออกมา ดังนั้นจึงต้องมองหากันแดดที่กันน้ำได้ และควรทากันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง4.เลือกกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว
ข้อนี้สำคัญมาก เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว หรือถ้าไม่รู้ว่าผิวของเราเป็นแบบไหนให้มองหาส่วนผสมจำพวกไนอาซินาไมด์ ลดความหมองคล้ำ แอร์ลิเซี่ยม ที่ช่วยทำให้หน้าไม่มัน ไฮยาลูรอนิค ให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น และวิตามินซีช่วยให้หน้ากระจ่างใส เป็นต้น แต่อยากให้เลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน เพราะจะทำให้ผิวมีความระคายเคืองวิธีทากันแดดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
วิธีทาครีมกันแดดให้มีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างสมบูรณ์ สามารถทำได้ดังนี้- ทาครีมกันแดดก่อนเผชิญแสงแดด 15-30 นาที
- ควรทากันแดดเป็นขั้นตอนแรกก่อนแต่งหน้า และรอให้กันแดดซึมลงผิวก่อน
- ถ้ามีกิจกรรมที่ต้องโดนน้ำหรือเหงื่อออกง่าย ควรเลือกกันแดดสูตรกันน้ำ และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
- งดใช้ครีมกันแดดหมดอายุ และไม่ควรใช้ครีมกันแดดที่ซื้อมาเกิน 3 ปี
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน ไม่ควรใช้ครีมกันแดด
เลือกกันแดดอย่างไรให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิว
แน่นอนว่าสภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกกันแดดก็จะต้องแตกต่างกันด้วย โดยสามารถเลือกกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละประเภทได้ดังนี้1.ผิวแห้ง
สำหรับคนผิวแห้ง ปัญหาผิวแรกที่คนส่วนใหญ่เป็นกัน วิธีการเลือกกันแดด ควรเลือกกันแดดแบบเนื้อครีม เนื่องจากเนื้อครีมจะมีความเข้มข้น และช่วยลดปัญหาการสูญเสียน้ำ ควรเลือกส่วนผสมที่ทำให้ผิวชุ่มชื้นอย่างไฮยาลูรอน ว่านหางจระเข้ เซราไมด์ และกลีเซอรีน งดใช้กันแดดที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ที่เป็นสาเหตุให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น2.ผิวมัน
ในคนที่ผิวมัน ควรเลือกกันแดดที่ซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว ให้เลือกใช้กันแดดเนื้อเจล เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำอยู่มาก ในขณะเดียวกัน ก็ไม่มีส่วนผสมอย่างน้ำมัน ไม่กระตุ้นให้ผิวมันมากขึ้น โดยเนื้อเจลจะมีคุณสมบัติซึมง่าย แห้งไว ไม่เหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบไว้ ขจัดความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี สำหรับในกลุ่มกันแดดของ L’Oreal จะมีส่วนการผสานส่วนผสมสำคัญอย่างแอร์ลิเซี่ยม ให้ผิวแมทปัง ดูไม่มันวาว กลุ่มคนผิวมัน สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน3.ผิวแพ้ง่าย หรือผิวที่เป็นสิว
ผิวที่คนส่วนใหญ่มักจะเป็นกัน คือ ผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่เป็นสิว ควรเลือกเป็นเนื้อโลชั่น เนื่องจากสัมผัสบางเบา ไม่หนักผิว ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์และพาราเบน แต่ให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ครีมกันแดดที่บอบบางดุจผิวเด็ก ไม่แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงเกินไป เพราะมีส่วนผสมของสารเคมีในปริมาณมาก ทำให้เกิดโอกาสแพ้ได้ แต่ในตอนนี้มีเทคโนโลยี Netlock เอกสิทธิ์เฉพาะของ L’Oreal Paris ทดสอบแล้วว่าสามารถใช้ได้ แม้ผิวบอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองง่ายกันแดดกันน้ำ VS กันแดดทั่วไป ควรเลือกใช้แบบไหนดี
กันแดดกันน้ำ VS กันแดดทั่วไป ควรเลือกใช้แบบไหนดี ขอบอกตรงนี้เลยว่าทั้งสองแบบไม่เหมือนกัน อย่างกันแดดกันน้ำ ตามชื่อเลย จะสามารถกันน้ำ กันเหงื่อได้ดี เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ว่ายน้ำ หรือมีเหงื่อออกมาก ส่วนกันแดดทั่วไป คือ จะปกป้องผิวจากแสง UV เพียงอย่างเดียว ซึ่งถ้าให้แนะนำ ก็ควรที่จะเลือกแบบกันน้ำไปเลยจะดีกว่า เพราะนอกจากจะไม่ทำให้หน้าไหลเยิ้มระหว่างวันแล้ว ยังตอบโจทย์สำหรับไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันอีกด้วย
จะเกิดอะไรขึ้น หากคุณไม่ทากันแดดเป็นประจำ
อย่างที่เราได้พูดไปข้างต้น ว่ากันแดดมีความสำคัญมาก ดังนั้นแน่นอนเลย ถ้าเราไม่ทากันแดด จะมีผลเสียตามมาหลายอย่าง เช่น- ผิวไหม้ เนื่องจากเซลล์ผิวถูกทำลาย
- สีผิวหมองคล้ำ ผิวขาดความสม่ำเสมอ
- ใบหน้าเกิดริ้วรอยดูเป็นคนมีอายุ
- เกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังในอนาคต
วิธีอ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์กันแดด
วิธีอ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์กันแดด สามารถแบ่งออกเป็น 3 ข้อหลัก ๆ คือ- ค่า SPF ป้องกันรังสี UVB ยิ่งใช้ SPF สูงก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถดูค่า UVB ได้ดังนี้
- SPF 15 จะมีประสิทธิภาพดูดซับรังสี UVB ได้ 93.3%
- SPF 30 จะมีประสิทธิภาพดูดซับรังสี UVB ได้ 96.7%
- SPF 40 จะมีประสิทธิภาพดูดซับรังสี UVB ได้ 97.5%
- SPF 50 จะมีประสิทธิภาพดูดซับรังสี UVB ได้ 98%
- SPF 50 จะมีประสิทธิภาพดูดซับรังสี UVB ได้ มากกว่า 98%
- ค่า PA ป้องกันรังสี UVA ที่ไม่ทำให้ผิวแก่กว่าวัย โดยมีรายละเอียดค่า UVA ดังนี้
- PA+ คือ ประสิทธิภาพสำหรับป้องกันรังสี UVA
- PA++ คือ ประสิทธิภาพสำหรับป้องกันรังสี UVA สูง
- PA+++ คือ ประสิทธิภาพสำหรับป้องกันรังสี UVA สูงมาก
- PA++++ คือ ประสิทธิภาพสำหรับป้องกันรังสี UVA สูงที่สุด
- สำหรับในบางคน ที่ต้องการมองหาครีมกันแดดชนิดกันน้ำ สามารถแบ่งได้ดังนี้
- Water Resistance (40 Minutes) สามารถกันน้ำได้ 40 นาที
- Very Water Resistance (80 Minutes) สามารถกันน้ำได้ 80 นาที
กันแดดผสมรองพื้น จะทำให้ผิวหน้าอุดตันไหม
ถ้าใครกลัว หรือเกิดความสงสัยว่า กันแดดผสมรองพื้น จะทำให้ผิวหน้าอุดตันไหม ไม่ต้องห่วงเลย เพราะในปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำให้กันแดดผสมรองพื้นบางสูตร ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน เช่น กันแดดผสมรองพื้นที่มีส่วนผสมของซิงค์ออกไซด์ นอน-คอมมิโดเจนนิค หรือไททาเนียมไดออกไซด์ ที่เป็นสารกันแดดแบบฟิสิกัล ซึ่งจะทำหน้าที่สะท้อนรังสียูวีออกไป โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิว
ปัจจัยที่มีผลต่อการออกฤทธิ์ของกันแดด
ปัจจัยที่มีผลต่อการออกฤทธิ์ของครีมกันแดด มีดังนี้- ทากันแดดผิดวิธี
ทากันแดดต้องทาตอนที่ผิวแห้งและสะอาด ลูบครีมให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพราะการทาย้อนขึ้นลง ไปมา จะทำให้ครีมกันแดดหลุดได้ - การใส่เสื้อผ้า
การใส่เสื้อผ้าหลังจากที่ทากันแดดทันที จะทำให้เนื้อครีมติดอยู่กับเสื้อผ้า และประสิทธิภาพป้องกันแสงแดดลดลง - ผิวที่ทากันแดดโดนน้ำ หรือการว่ายน้ำ
ไม่ว่าจะเป็นการโดนน้ำ โดนเหงื่อ หรือการว่ายน้ำ ถ้าไม่ใช่กันแดดแบบกันน้ำ จะสามารถทำให้ครีมกันแดดจางลงได้ - ลมที่พัด
คุณอาจจะคิดไม่ถึงว่าลมพัด จะทำให้กันแดดหายไปได้ยังไง แต่สำหรับการทากันแดด สิ่งที่ต้องระวังเลย คือ ลม เพราะลมจะพัดให้กันแดดที่ติดบนผิวของเราหลุดออกได้
รวมความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันแดด
แม้ว่ากันแดดจะดูไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนอะไรมาก แต่ก็ยังมีหลาย ๆ คนที่ยังคงเข้าใจผิดเกี่ยวกับครีมกันแดดอยู่ โดยเรื่องเข้าใจผิดได้แก่- กันแดดทุกยี่ห้อไม่ต่างกัน
ในความจริงแล้ว กันแดดมีความต่างกัน อย่าง 3 ประเภทของครีมกันแดด ที่เราได้พูดไว้ด้านบน ก็ถือว่าทำหน้าที่ต่างกันแล้ว - ทากันแดดเฉพาะตอนออกจากบ้านและไม่ทาซ้ำ
รังสีจากแสงแดดสามารถสัมผัส และทำร้ายผิวของเราได้ทุกที่ จึงควรทาทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และกันแดดทาแต่ละครั้ง จะปกป้องผิว 40-80 นาที ดังนั้นจึงควรใช้กันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง - ไม่ควรทากันแดดที่เปลือกตา
ข้อนี้เป็นจุดที่คนเข้าใจผิดมากที่สุด เพราะดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางเลยไม่กล้าทา แต่ในความจริงแล้ว รังสีจากแสงแดดก็สามารถสร้างอันตรายให้ดวงตาได้เช่นกัน ดังนั้นหลังจากนี้ถ้าทากันแดด ต้องทาบริเวณเปลือกตาทุกครั้ง - ทากันแดดหลังจากใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย
การทากันแดดบริเวณหน้า ลำคอ แขน ขาที่ต้องสัมผัสแสงแดด ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่ในความจริงนั้นผิวหนังใต้ร่มผ้า ก็ต้องมีการปกป้องด้วยเหมือนกัน ดังนั้นการทากันแดดที่เหมาะสมที่สุดคือทั้งทุกส่วนของร่างกาย - ไม่จำเป็นต้องอ่านฉลากของครีมกันแดด
จุดแรกที่ควรโฟกัสก่อนเรื่องอื่น คือ ฉลากครีมกันแดด เราต้องเลือกครีมกันแดดที่ตรงกับไลฟ์สไตล์และสภาพผิว เพื่อการปกป้องที่ดีที่สุด
แนะนำครีมกันแดดที่ดีที่สุด จากลอรีอัล ตัวเต็งมีขายใน 7-11
L'Oreal Paris UV Defender Invisible Fluid SPF50+ PA++++
ครีมกันแดด ลอรีอัล ตัวเต็งใน 7-11 นาทีนี้ต้องยกให้ L'Oreal Paris UV Defender Invisible Fluid SPF50+ PA++++ ช่วยบำรุงผิวไปในตัว เพิ่มความชุ่มชื้น ไม่ให้ผิวเสียจากแสงแดด เซรั่มกันแดดคุมมันแบบซอง ยังมีจุดเด่นหลัก ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่
จุดเด่น
- เนื้อสัมผัสบางเบากว่าเดิมมากถึง 20 เท่า*
- ซึมซาบไว ไม่เหนียว ไม่ทิ้งคราบไว้บนใบหน้า
- มาพร้อมเทคโนโลยี Netlock เอกสิทธิ์เฉพาะ
- มีอณูเล็กขนาดไมโคร ให้ความรู้สึกเหมือนฟิล์มยึดเกาะผิว
- ปกป้องคูณ 3** กันน้ำ กันเหงื่อ กันฝุ่น PM 2.5
- ช่วยปกป้องผิวจากจุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัยอันควร
- สามารถใช้ได้แม้ในผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว
L'OREAL PARIS UV Defender Matte & Fresh SPF50+PA++++
L'OREAL PARIS UV Defender Matte & Fresh SPF50+PA++++ เหมาะกับคนผิวมัน ผิวเป็นสิว ต้องการกันแดดที่ควบคุมความมัน ปกป้องผิวจากแสงแดด และมลภาวะ อีกหนึ่งตัวยอดนิยมจุดเด่น
- ปกป้องผิวจากแสงแดด SPF50+ PA++++ ป้องกันรังสี UVB และ UVA สูงสุด
- Mexoryl SX และ XL กรองรังสี UV ได้ถึง 98%
- เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่อุดตันรูขุมขน
- แอร์ลิเซี่ยมช่วยดูดซับความมัน ให้ผิวแมทท์ ไม่มันวาว
- เทคโนโลยี Anti-Pollution ช่วยปกป้องผิวจากฝุ่นควัน PM 2.5
- ส่วนผสม Hyaluronic Acid ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 8 ชั่วโมง
- สูตร Oil-free อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดสิว เกลี่ยง่าย ทาแล้วหน้าไม่วอก ไม่เป็นคราบ
สรุป
คุณก็คงจะได้เห็นกันไปแล้วสำหรับข้อควรรู้ของการทาครีมกันแดด ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดดเลือกใช้ยังไงให้ปกป้องผิวได้ดี วิธีทาครีมกันแดดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เลือกกันแดดอย่างไรให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิว ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับครีมกันแดด และประเด็นอื่น ที่หลาย ๆ คนเคยสงสัย ยังยืนยันเหมือนเดิมเสมอมาและตลอดไปว่ากันแดดมีความจำเป็นจริง ๆ สำหรับทุกคน ถ้าคุณเริ่มสนใจครีมกันแดด และอยากทดลองใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดสักตัว เราขอแนะนำกันแดดจาก L’Oreal ที่มีให้เลือกมากถึง 5 สูตร 5 สไตล์ เนื้อบางเบา ซึมไว ไม่เหนอะหนะ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวอ้างอิง
https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/sunscreen-guide#what-is-spfhttps://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7759112/